พื้นไม้ลามิเนต คืออะไร

             

 

          เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง ผลิตจากเยื่อไม้บดละเอียดและอัดขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี HDF (High Density Fiber) ลดการบิดงอของตัวไม้  ปิดผิวด้านบนด้วยฟิลม์กระดาษที่มีลวดลายเสมือนไม้จริง  และผิวหน้าเคลือบด้วยอลูมิเนียมอ็อกไซด์ เพื่อเพิ่มความคงทนต่อแรงกระแทกป้องกันการกระแทก และรอยขีดข่วน ส่วนชั้นล่างสุดของแผ่นไม้ คือแผ่นเมลามีนเรซิ่น เสริมความแข็งแกร่งและป้องกันความชื้น  อีกทั้งเทคนิคการเคลือบป้องกันความชื้นบริเวณร่องลิ้น เพื่อให้เหมาะกับใช้งานในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้น และติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล๊อค เรียบเนียนสนิทไร้รอยต่อ ไม่เก็บกักฝุ่น

           พื้นไม้ลามิเนตมีความสวยงามมาก และ มีหลากหลายลายไม้ให้เลือก  ดังนั้นจึงทำให้ลามิเนตเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันที่เหมาะกับงานใช้ภายใน เช่น ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด หรือ ห้างสรรพสินค้า

 

ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต 

-มีผิวสัมผัสที่สวยงามให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง

-สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้

-มีความทนทานต่อการรับน้ำหนัก และแรงกระแทกขีดข่วน 

-มีน้ำหนักเบา

-ติดตั้ง หรือ เปลี่ยนแผ่นแบบเฉพาะจุดโดยไม่ต้องรื้อใหม่ทั้งหมดเวลาเเผ่นใดแผ่นนึงเกิดความเสียหาย ซึ่งทำได้ง่ายรวดเร็วด้วยระบบกลไกการล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ หรือที่เรียกว่า Click Lock

-สามารถปูทับ พื้นกระเบื้อง เซรามิค ได้เลย

ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต 

-ไม่ทนน้ำ และความชื้นสูง ถ้าหากโดนน้ำขังนานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เกิดการพองบวม และบิดตัว

-มีโอกาสโดนปลวกกินถ้าเลือกใช้เกรดไม่ดี

-มักจะเกิดความเสียหายเวลาที่รับน้ำหนักวัตถุที่มีลักษณะเป็นเดือยแหลมคม เช่น ส้นของรองเท้าส้นแหลม เป็นต้น

-ไม่ทนต่อสภาพความเป็นกรดสูง

-ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยการใช้แว๊กซ์ น้ำยาขัดเงา หรือ น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ เพราะจะทำให้พื้นลามิเนตเกิดความเสียหายได้

การเตรียมพื้นสำหรับปูไม้ลามิเนต

1. การตรวจสอบสภาพความพร้อมของผิวพื้น 

-ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น อย่าให้มีเม็ดหิน หรือวัสดุใดอยู่บนพื้น 

-หากพื้นเดิมเป็นพื้นปูน

พื้นที่ที่จะติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต หากเป็นพื้นปูนจะต้องปรับพื้นปูนให้ เรียบได้ระดับ โดยการขัดหยาบ โดยไม่จำเป็นต้องขัดมัน ดังนั้นสำหรับบ้านที่สร้างใหม่ หรือ ส่วนต่อเติมพื้นบ้านที่จะเทปูนสามารถติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตบนพื้นปูนขัดหยาบที่ได้ระดับแล้วได้เลย

-หากพื้นเดิมเป็นพรม

จะต้องรื้อพรมออกก่อนการติดตั้ง และกำจัดกาวที่ยึดพรมกับพื้นออกให้หมด เพื่อให้พื้นได้พื้นที่ได้ระดับมากที่สุด เหมาะกับการติดตั้ง สาเหตุที่เราไม่สามารถติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตบนพรมได้ ก็เนื่องจาก ตัววัสดุพรมเองมีขนที่หนา เวลาเดินจะรู้สึกยวบๆ ดังนั้นหากติดตั้งไม้ลามิเนตบนพรม ก็จะทำให้พื้นยวบๆเช่นกัน

-หากพื้นเดิมเป็นกระเบื้อง/กระเบื้องยาง

กรณีที่พื้นเดิมเป็นกระเบื้อง ต้องอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ ไม่หลุดร่อน เราสามารถติดตั้งลามิเนต บนกระเบื้อง หรือ กระเบื้องแกรนิตได้ทันที แต่หาก หากมีการหลุดร่อนควรดำเนินการปรับให้เท่าพื้นที่เดิมก่อน ค่อยติดตั้งลามิเนตทับอีกที

-หากพื้นเดิมเป็นพื้นที่ไม้ปาร์เก้ หรือ ไม้จริง

กรณีนี้ เราจำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องปลวก หากไม่มีปลวก และ พื้นไม้ปาร์เก้ ไม่หลุดร่อน สามารถติดตั้งลามิเนตทับพื้นไม้เดิมได้ทันที โดย หลังจากติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตทับพื้นปาร์เก้ หรือ พื้นไม้จริง หรือ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เดิมไปแล้ว จะไม่ทำความเสียหายให้กับพื้นไม้เดิมเลย เนื่องจากพื้นไม้ลามิเนตนั้น ติดตั้งด้วยระบบลอยตัว และ ระบบการเข้าลิ้น(คลิกล็อค) โดยมีฟิล์มโฟมรองพื้นรองใต้พื้นไม้ลามิเนตอยู่อีกชั้นหนึ่ง ดังนั้น หากในอนาคตต้องการรื้อพื้นไม้ลามิเนตออก พื้นไม้ที่อยู่ข้างล่างก็ยังคงสภาพดีอยู่

2. การตรวจสอบความชื้นของพื้นที่ปู

โดยพื้นห้องควรมีความชื้นไม่เกิน 8% โดยใช้เครื่องวัดความชื้นบริเวณพื้นหน้าที่ปู 
    - กรณีต้องการให้พื้นปูนแห้งเร็ว ควรใช้ Spot-light หรือใช้ปูนฉาบสำเร็จชนิดแห้งเร็ว 
    - กรณีเทปูนทรายปรับหน้าพื้นคอนกรีต ควรทิ้งช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์ 

3. คำนวณพื้นที่ห้องเพื่อกำหนดการวางแนวในการปูพื้น

โดยคำนวณให้เศษเหลือน้อยที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดการปูเป็น 2 รูปแบบคือ 
    - การปูแบบต่อเนื่องหรือก่ออิฐ การปูลักษณะนี้จะต้องเผื่อไม้พื้นที่ต้องใช้ให้มากกว่าพื้นที่จริง ประมาณ 10% 
    - การปูแบบต่อเนื่อง การปูลักษณะนี้จะต้องเผื่อไม้พื้นที่ต้องใช้ให้มากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 3-5% 
   สำหรับการคำนวณพื้นที่ ที่ไม่ใช่รูปทรงสี่เหลี่ยมเช่นวงกลมหรือสามเหลี่ยม พื้นที่ลักษณะดังกล่าวจะใช้ ไม้พื้นมากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 30-40%

วิธีการติดตั้ง

         พื้นไม้ลามิเนตติดตั้งด้วยระบบลอยตัว โดยวิธีคลิกล็อค เข้าลิ้นไม้เข้าด้วยกัน  ไม่ใช้กาวในการติดตั้ง โดยมีฟิลม์โฟมรองใต้พื้นลามิเนตอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันความชื้นจากพื้นด้านล่าง พื้นไม้ลามิเนต ยังสามารถติดตั้งทับพื้นกระเบื้องเดิม หรือ พื้นแกรนิโตเดิม ที่ไม่เสียหาย (ไม่แตก หลุด ร่อน) ได้อีกด้วย

- การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร หรือ พื้นไม้ลามิเนตความหนา 12 มิลลิเมตร โดยการเข้าลิ้น ทับบนฟิล์มโฟมรองพื้น โดยการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตนั้นจะต้องเว้นช่องไฟ จากขอบผนัง ประมาณ 1 – 1.50 เซนติเมตร เพื่อให้พื้นไม้ขยายตัวออกได้ หากไม่เว้นช่องไฟระหว่างพื้นไม้ลามิเนต และ กำแพง เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง พื้นไม้ลามิเนตจะมีการขยายตัวอันเนื่องมาจากอุณหภูมิของห้องที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นหากไม่มีช่องไฟให้พื้นไม้ขยายตัว จะทำให้พื้นไม้ดันกัน และ โก่งตัวขึ้นมาได้เมื่อระยะเวลาผ่านไป 

- การติดตั้งบัวผนังรอบห้อง ทับบนพื้นไม้ลามิเนต ที่ต้องใช้บัวผนัง หรือ ตัวจบงานต่างๆ ทับบนพื้นไม้ลามิเนตนั้น เพื่อเป็นการกดทั้บพื้นไม้ลามิเนตให้แน่นกับพื้น และ ปิดช่องไฟระหว่างกำแพงที่เราเว้นสำหรับวัสดุบัวผนังนั้น มีทั้งที่เป็นแบบ MDF หรือ กระดาษอัด และ เป็นแบบ PVC 

วิธีการดูแลรักษา

            การดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตนั้นไม่ยาก การดูดฝุ่นและใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เป็นประจำ ก็เพียงพอที่จะรักษาพื้นไม้ลามิเนตให้สะอาดอยู่เสมอ โดยไม่ต้องขัดหรือเคลือบเงา และถ้าหากรอยเปื้อนที่เช็ดออกได้ยาก เช่น ยาทาเล็บ คราบหมึก ปากกา ยาง กาวหรือคราบสี ให้ใช้ผ้าชุบน้ำมันสนเช็ด หรือน้ำยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น น้ำยาล้างเล็บ ชุบสำลี แล้วเช็ดในบริเวณรอยเปื้อนนั้นออก จากนั้นค่อยใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดอีกครั้ง